ทริปเยอรมันใต้:บาวาเรีย-ทิโรล 9 วัน 8 คืน
บาวาเรีย-ทิโรล เส้นทางแสนสวยบริเวณตอนใต้ของประเทศเยอรมนีและคาบเกี่ยวระหว่างประเทศออสเตรีย ดินแดน ที่อยู่ท่ามกลางเทือกเขาแอลป์และทะเลสาบต่างๆ ที่งดงาม เส้นทางการค้าเกลือในอดีตที่ยังคงเหลือกลิ่นอายแห่งความเจริญรุ่งเรืองและความร่ำรวยผ่านอาคารบ้านเรือน โบสถ์ และสถาปัตยกรรมต่างๆ
Day 1 : สนามบินมิวนิค - โคนิกเซ่ - เบิร์กเทสกาเด้น ประเทศเยอรมนี
รับคณะที่สนามบินมิวนิค ฟรันซ์ โยเซฟ ซเตราสส์ เมืองมิวนิค เดินทางสู่ทะเลสาบโคนิก ที่มีน้ำใสราวกับมรกต ดินแดนแห่งฟยอร์ดที่สวยงามในเขตเทือกเขาแอลป์ ที่กำเนิดมาจากการละลายของน้ำแข็งบนยอดเขา เราจะล่องเรือพลังงานไฟฟ้าชมทะเลสาบ แล้วแวะขึ้นชมโบสถ์บาโธโลมิวที่ตั้งอยู่ริมน้ำ มีหลังคารูปทรงคล้ายหัวหอม หลังล่องเรือเสร็จ อิสระเดินเล่นบริเวณท่าเรือที่มีร้านค้า ร้านอาหารและร้านที่ขายของระลึกมากมาย หลังจากนั้นเดินทางไปยังเมืองเบิร์กเทสกาเด้น เป็นเวลาอิสระให้เดินเล่นชมเมืองท่องเที่ยวสำคัญบนเส้นทางดิอัลไพน์โร้ดที่สวยงามของเยอรมนี ที่มีบ้านเมืองและอาคารคลาสสิคมีเสน่ห์แบบบาวาเรีย เมืองที่มีความมั่งคั่งจากเหมืองเกลือ พักค้างคืนที่เมืองเบิร์กเทสกาเด้น ประเทศเยอรมนี
Day 2 : เหมืองเกลืองเบิร์กเทสกาเด้น ประเทศเยอรมนี - อินส์บรูค ประเทศออสเตรีย
เช้า นำทุกท่านเดินทางไปยังเหมืองเมืองเก่า นำท่านเข้าชมเหมืองเกลือเก่าที่สร้างมาตั้งแต่ ค.ศ.1517 ปัจจุบันเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมภายในที่ยังคงรักษาสภาพเดิมไว้ทุกประการ สวมชุดชาวเหมืองแบบดั้งเดิมและด้วยการนั่งรถไฟฟ้าเดินทางไปในเส้นทางใต้ดินลอดอุโมงค์ไปยังถ้ำเกลืออันระยิบระยับและทะเลสาบใต้ภูเขาพร้อมด้วยแสงเสียง บรรยากาศราวกับอยู่ในช่วงเวลาของ 500 ปีก่อน หลังจากนั้นเดินทางต่อไปยังเมืองอินส์บรูค ประเทศออสเตรีย เมืองหลวงแห่งแคว้นทิโรลใจกลางเทือกเขาแอลป์ ชมสถานที่น่าสนใจหลายแห่งในตัวเมืองอินส์บรูค ถ่ายรูปวิวบ้านสีสวยๆ ที่ริมแม่น้ำอินส์ และหลังคาทองคำจุดที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง จากนั้นอิสระเดินเล่นบนถนนมาเรียเทเรซ่าถนนช้อปปิ้งของอินน์สบูร์ค พักค้างคืนที่เมืองอินส์บรูค ประเทศออสเตรีย
Day 3 : ยอดเขาซุกสปิตเซ่ - ฟุสเซ่น ประเทศเยอรมนี
เดินทางสู่เมืองการ์มิชพาร์เท่น เคียร์เช่น ประเทศเยอรมนี เพื่อขึ้นสู่ยอดเขาซุกสปิตเซ่ ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเยอรมนีด้วยความสูง 2,962 เมตร ชมวิว ณ จุดชมวิวบนยอดเขาที่สามารถเห็นทิวทัศน์กว้างไกลถึง 4 ประเทศด้วยกัน คือ เยอรมนี ออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ และอิตาลี ด้านบนมีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี บ่าย เดินทางต่อไปยังเมืองฟุสเซ่น ประเทศเยอรมนี เมืองตากอากาศแสนสวยรายล้อมด้วยขุนเขา ที่ตั้งอยู่บนถนนสายโรแมนติกโร๊ดที่โด่งดังในเรื่องเส้นทางอันสวยงาม อิสระเดินเล่นชมเมืองน่ารักๆ ตลอดจนร้านขายของที่ระลึกมากมาย พักค้างคืนกันที่เมืองฟุสเซ่น ประเทศเยอรมัน
Day 4 : ปราสาทนอยชวานสไตน์ – อุล์ม ประเทศเยอรมนี
เดินทางไปยัง เมืองโฮเฮนชวานเกา เพื่อเข้าชม ปราสาทนอยชวานสไตน์ พาทุกท่านเข้าชมปราสาทแสนสวยที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าลุดวิกที่ 2 ในช่วงปี ค.ศ.1845-1886 ตามพระประสงค์ให้จัดสร้างตามจินตนาการจากอุปรากรเพลงของคีตกวีร่วมสมัย ริชาร์ด วากเนอร์ เพื่อเป็นที่ประทับอย่างสันโดษห่างจากผู้คน เป็นปราสาทที่เป็นต้นแบบของการสร้างปราสาทแห่งเทพนิยายในสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ทั่วโลก เข้าชมห้องต่างๆ ด้านใน เช่น ห้องบรรทม ห้องทรงงาน โรงละครท้องพระโรงที่ตกแต่งอย่างวิจิตรสวยงาม และชมภาพกว้างของปราสาทบนภูเขาจากบนสะพานมาเรียน บ่าย เดินทางต่อไปยังเมืองอุล์ม เมืองที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำดานูบ เดินเล่นชมเมืองเก่าจากยุคกลางมีชื่อเสียงจากอาคารครึ่งไม้ครึ่งดินเหนียว โบสถ์โกธิกและเป็นบ้านเกิดของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ พักค้างคืนที่เมืองอุล์ม ประเทศเยอรมัน
Day 5 : อุล์ม – ไฮเดลเบิร์ก ประเทศเยอรมนี
ออกเดินทางสู่เมืองไฮเดลเบิร์ก เมืองมรดกโลกที่เก่าแก่ มีมหาวิทยาลัยไฮเดลเบิร์ก ซึ่งมีชื่อเต็มว่า Ruprecht - Karls - Universitaet Heidelberg เป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในเยอรมนีอายุเกือบ 700 ปี เป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่เป็นอันดับ 2 ของยุโรปรองจากมหาวิทยาลัยปร๊าก ประเทศสาธารณรัฐเชค ชมปราสาทไฮเดลเบิร์ก ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาที่ล้อมรอบด้วยป่า เมื่อขึ้นไปอยู่บนเนินเขาที่ตั้งของปราสาทแห่งนี้จะมีจุดชมวิวที่จะมองเห็นตัวเมืองเก่าไฮเดลเบิร์กและแม่น้ำเนคคาร์ที่ไหลผ่านตัวเมืองไฮเดลเบิร์กอีกด้วย นอกจากนี้ ปราสาทไฮเดลเบิร์กยังมีห้องเก็บไวน์ซึ่งบรรจุไว้ในถังโอ๊คบ่มที่เป็นไวน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากนั้นเที่ยวชมตัวเมืองเก่าไฮเดลเบิร์ก ชมสะพานโบราณข้ามแม่น้ำเด็กคาร์ จตุรัสกลางเมือง ซึ่งเป็นที่ปราศรัยแนวคิดทางการเมืองของบรรดานักคิดนักเขียนที่มีชื่อเสียงหลายท่าน คืนนี้เราจะพักค้างคืนที่กันที่เมืองไฮเดลเบิร์ก ประเทศเยอรมัน
Day 6 : วูซเบิร์ก - โรเธนบวร์ก ออบ เดอร์ ทาวน์เบอร์ ประเทศเยอรมนี
เดินทางไปยัง เมืองวูซเบิร์ก เมืองที่เป็นประตูสู่เส้นทางสายโรแมนติกเพราะเป็นเมืองจุดเริ่มต้นของสายโรแมนติกโร้ดถนนยอดฮิตของประเทศเยอรมัน เมืองนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาเป็นเมืองที่เป็นแหล่งเพาะปลูกองุ่นเพื่อผลิตไวน์ เดินเที่ยวชม เมืองและมหาวิหาร St.Kilian อายุเก่าแก่กว่า 900 ปี ข้ามสะพานหินเก่าแก่ข้ามแม่น้ำไมน์ที่สวยไม่แพ้สะพานชาร์ลของกรุงปร๊าก และบนสะพานนี้เราจะมองเห็นป้อมปราการมาเรียนแบร์กที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขา จากนั้นเราจะเดินทางไปเมืองโรเธนบวร์ก ออบ เดอร์ ทาวน์เบอร์ เมืองสวยบนเส้นทางโรแมนติคโร๊ดของเยอรมนี ชมศาลาว่าการเมืองและจุดที่เป็นไฮไลท์ของเมืองที่เรียกว่า Plonlein หรือ Little square จากนั้นอิสระเดินเล่นชมเมืองโรเธนบวร์ก เมืองเก่าในยุคกลางที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำทาวเบอร์ทางตอนเหนือของแคว้นบาวาเรียที่ อดีตเคยเป็นเมืองอิสระก่อนที่จะถูกรวมเข้ากับแคว้นบาวาเรียจึงมีกำแพงโอบล้อมอยู่ทั้งเมือง พักค้างคืนที่เมืองโรเธน บวร์ก ออบ เดอร์ ทาวน์เบอร์ ประเทศเยอรมนี
Day 7 : แบมเบิร์ก - นูเรมเบิร์ก ประเทศเยอรมนี
เดินทางสู่เมืองแบมเบิร์ก อีกหนึ่งเมืองมรดกโลกของปรเทศเยอรมัน เดินเล่นชมเมือง ไม่ว่าจะเป็นศาลากลางหลังเก่า Altes Rathaus ที่ตั้งอยู่บนสะพาน Obere Brücke สร้างคล่อมแม่น้ำเร็กนิทซ์ มหาวิหารแบมเบิร์ก จากนั้นให้ทุกคนอิสระเดินเล่นชมเมืองน่ารักแห่งนี้ จากนั้นเดินทางต่อไปที่เมืองนูเรมเบิร์ก เมืองโบราณที่มีอายุกว่า 900 ปี เดินชมปราสาทนูเรมเบิร์กและจัตุรัสกลางใจเมือง ซึ่งมีตลาดนัดขนาดใหญ่ประจำเมือง ชมโบสถ์พระแม่มาเรีย จุดเด่นคือ มีนาฬิกาตุ๊กตาไขลานที่หน้าจั่วของโบสถ์พระแม่มาเรีย พักค้างคืนที่เมืองนูเรมเบิร์ก ประเทศเยอรมนี
Day 8 : อิงกอลชตัทท์ วิลเลจ เอ้าท์เลต – มิวนิค ประเทศเยอรมนี
อิสระช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังที่อิงกอลชตัทท์ วิลเลจ เอ้าท์เลต มีร้านค้ากว่า 100 ร้าน เช่น Gucci, Armani, Bally, Superdry, Nike, Puma, Swarovski, Salomon, Zwilling บ่าย เดินทางต่อไปยัง กรุงมิวนิค เมืองหลวงแห่งแคว้นบาวาเรียที่ยิ่งใหญ่ในอดีตและเป็นหัวเมืองใหญ่ที่เจริญที่สุดทางตอนใต้ของประเทศเยอรมนี เที่ยวชมย่านเมืองเก่าจัตุรัสมาร์เรียนพลาส ย่านพบปะ ติดต่อค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้ามาแต่โบราณ มีรูปปั้นพระแม่มารีทองคำอยู่บริเวณใจกลางจัตุรัส ปัจจุบันเป็นลานกว้างที่รายล้อมด้วยสถานที่สำคัญมากมาย เช่น ศาลาว่าการเมืองนอยเยอรัทเฮ้าส์ ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่นาฬิกาบนหอคอยที่เรียกว่า Glockenspiel ที่จะมีตุ๊กตาออกมาเต้นระบำในเวลา 11.00 น. และ 17.00 น. ของทุกวัน ชมโบสถ์เฟราเอน โบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในมิวนิค สร้างตามแบบโกธิคในปี ค.ศ.1468 ด้วยอิฐสีแดง โดดเด่นด้วยโดมทรงหัวหอมเหนือมหาวิหารสูง 99 เมตร สัญลักษณ์ของกรุงมิวนิคที่ทุกคนคุ้นตาหรือเดินเที่ยวตลาดวิคทัวเลียน ตลาดกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดของเมือง มีสินค้าวางขายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารสด ผักสด ผลไม้ ของแต่งบ้าน และของที่ระลึก อิสระให้เดินเล่นช็อปปิ้งสินค้าบริเวณรอบๆ จัตุรัสมาร์เรียนพลาส พักค้างคืนที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
Day 8 : มิวนิค ประเทศเยอรมนี - เดินทางกลับกรุงเทพฯ
ชมบริเวณและสวนของพระราชวังนิมเฟนบวร์ก ได้เวลาอันสมควรพาทุกท่านเดินทางไปยังสนามบินมิวนิค ฟรันซ์ โยเซฟ เพื่อทำการเช็คอิน พร้อมทั้งทำ VAT Refund คืนภาษี เดินทางกลับกรุงเทพฯ
หมายเหตุ กำหนดการเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เพื่อความเหมาะสม ทั้งนี้ทางบริษัทฯ จะยึดถือความปลอดภัยตลอดจนผลประโยชน์ของคณะผู้เดินทางเป็นสำคัญ